บานอฟฟี่ คือขนมที่ทำทานได้ง่ายและในปัจจุบันยังมีหลากหลายหน้าให้เราเลือกทานกันได้แบบอร่อย ๆ และยังมีความลงตัวกับทุกหน้าที่มีการอัพเดทอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นหน้ากล้วย หน้าคาราเมล หน้าอื่น ๆ และยังมีการยกระดับให้น่าทานขึ้นด้วยการเลือกทำใส่ในภาชนะต่าง ๆ เพื่อเพิ่มอรรถรสในความน่าทานและยังช่วยเพิ่มความอร่อยได้อย่างลงตัว โดยตามคาเฟ่หรือร้านกาแฟทั่วไปเรามักจะเห็นว่ามีการยกระดับทำเมนูนี้ใส่ขวดโหลสวย ๆ ขนาดจิ๋ว ทำให้เราอยากตักมาทานทีละคำ หรือจะเลือกใส่ภาชนะที่มีการออกแบบมาโดยเฉพาะเพื่อเอาใจลูกค้า ซึ่งเมนูนี้เรายังสามารถทำทานเองที่บ้านได้ง่าย ๆ ชื่นชอบหน้าอะไรก็สามารถรังสรรค์ได้ตามความต้องการ หากใครที่ชอบความหอมและความกลมกล่อมของกล้วยหอมก็สามารถเลือกใช้กล้วยหอมเป็นพระเอกหลักของงานนี้ หรือใครที่ชอบผลไม้ชนิดอื่นก็สามารถเลือกใส่เพิ่มได้ตามความต้องการ แต่ทั้งนี้ขอแนะนำว่าควรเป็นผลไม้ที่มีความหอมและความหวานสักเล็กน้อย เพื่อที่จะได้เข้ากันกับเมนูนี้ได้อย่างลงตัว เพราะหากเลือกใช้ผลไม้ที่มีความหวานหรือหวานอมเปรี้ยวก็อาจตัดทอนความหอมและหวานของเมนูนี้ได้ ดังนั้นเพื่อให้เมนูนี้ลงตัวได้ดีที่สุดจึงควรเลือกใช้ผมไม้หรือท็อปปิ้งที่เน้นความหอมและความหวานสักหน่อยนั่นเอง
วิธีทำ บานอฟฟี่ ทำง่าย เสร็จไวเพียงไม่กี่นาที
สูตรกล้วยหอมสำหรับคนชอบกล้วย มาทางนี้
วีธีการทำสำหรับพิมพ์ 3 ปอนด์
ส่วนผสม ชั้นที่ 1 (A) ฐานพาย
- บิสกิต 240 กรัม (หรือคุกกี้โอรีโอ้)
- เนยสดจืด 100 กรัม
ส่วนผสม ชั้นที่ 2 (B) ช็อกโกแลต
- ดาร์กช็อกโกแลต 60% 130 กรัม
- วิปปิ้งครีมชนิดนมโคแท้ 140 กรัม
- กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา
ส่วนผสม ชั้นที่ 3 (C) กล้วยคาราเมล
- น้ำสะอาด 1/4 ถ้วย
- น้ำตาลคาราเมล 1/2 ถ้วย
- น้ำตาลทรายแดง 1/2 ถ้วย
- เกลือ 1/2 ช้อนชา
- วิปปิ้งครีมนมโคแท้ (Dairy Whipping Cream) 3/4 ถ้วย (นำเข้าไมโครเวฟให้ร้อน 1 นาที)
- เนยสดจืด 30 กรัม
- กลิ่นวานิลลา 1/2 ช้อนชา
- กล้วยหอม 5-6 ลูก หรือตามชอบ
ส่วนผสม ชั้นที่ 4 (D) วิปปิ้งครีม
- วิปปิ้งครีม ใช้ได้ทั้งครีมสด (Dairy) และ ครีมไขมันพืช (Non-Dairy) 300-400 กรัม (ใส่มากหรือน้อยตามชอบ)
- กลิ่นวานิลลา 1/2 ช้อนชา
ข้อแนะนำ เราสามารถเติมน้ำตาลไอซิ่งได้ตามชอบ โดยชิมรสวิปครีมก่อนค่อยเติม ในสูตรใช้วิปครีมที่มีรสหวานอยู่แล้วเลยไม่ได้เติมไอซิ่ง โดยส่วนมากถ้ารสไม่หวานจะเพิ่มไอซิ่ง 10% ของน้ำหนักวิปครีมที่ใช้
ส่วนผสม ชั้นที่ 5 (F) ผงโกโก้ (สำหรับโรย)
- ผงโกโก้ชนิดไม่หวาน 2-3 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำชั้นที่ 1 ฐานพาย
- นำบิสกิตไปปั่นหรือใส่ถุงทุบให้ละเอียดหากใครที่ไม่มีเครื่องปั่น จากนั้นให้เทเนยละลายลงผสมให้เข้ากัน นำไปกรุใส่พิมพ์ให้แน่น แล้วเข้าช่องแช่แข็งประมาณ 1 ชั่วโมงหรือจนเซตตัว
วิธีทำชั้นที่ 2 ช็อกโกแลต
- นำวิปครีมแบบ Dairy และดาร์กช็อกโกแลตไปตุ๋นด้วยไฟอ่อน พอช็อกโกแลตละลายก็ยกลงจากเตา คนให้เข้ากัน เติมกลิ่นวานิลลา รอจนเย็นแล้วนำไปเทใส่พิมพ์ที่กรุบิสกิตไว้ นำไปเข้าช่องแช่แข็ง หรือแช่เย็นให้เซตตัวดีก่อนค่อยทำชั้นต่อไป
วิธีทำชั้นที่ 3 กล้วยกับคาราเมล
- ทำคาราเมล โดยใส่น้ำสะอาดลงในหม้อทนความร้อน ใส่น้ำตาลทรายคาราเมล ตามด้วยน้ำตาลทรายแดงกับเกลือ ตั้งไฟปานกลางกวนจนน้ำตาลละลายหมด และมีลักษณะข้นเหนียว มีกลิ่นไหม้นิด ๆ ปิดไฟ
- ค่อย ๆ เทวิปครีม (ที่นำเข้าไมโครเวฟให้ร้อน) คนจนเข้ากันแล้วเปิดไฟกลางอีกครั้ง กวนต่อจนข้นขึ้นแล้วยกลงจากเตา ใส่เนยและกลิ่นวานิลลา คนจนเนยละลายหมด พักไว้ให้เย็น
- จัดเรียงกล้วยลงในพิมพ์ ราดด้วยคาราเมลแล้วนำไปแช่เย็นให้คาราเมลแข็งตัวสักนิดค่อยมาโปะวิปครีม
วิธีทำชั้นที่ 4 วิปครีม
- ถ้าอยากให้อยู่ตัวนานขึ้นแนะนำใช้ครีมแบบ Non-Dairy แต่ถ้าไม่อยากซื้อหลายอันก็ใช้ครีม Dairy ได้เลย ใส่วิปครีมลงไปในอ่างผสม เติมกลิ่นวานิลลา ตีวิปครีมให้ขึ้นฟู นำไปโปะในพิมพ์ ใส่มากหรือน้อยตามชอบ เกลี่ยให้เรียบ
วิธีทำชั้นที่ 5
- โรยด้วยผงโกโก้ก่อน หรือเอาเข้าแช่ตู้เย็นให้คาราเมลและวิปครีมเซตตัวก่อนค่อยมาโรยผงโกโก้ แต่แนะนำต้องแช่เย็น เวลาเอามาตัดจะได้สวย ๆ ไม่เละ
เพียงเท่านี้เราก็จะได้ขนมสวย ๆ ทานง่าย ส่งกลิ่นหอมมาแต่ไกล ทานได้เท่าไรก็ไม่เบื่อ
ทานได้บ่อย ยิ่งทานยิ่งเพลิน
ใครที่ชื่นชอบการทาน บานอฟฟี่ อยากเปลี่ยนรสชาติเป็นหน้าอื่น ๆ ก็สามารถเลือกเปลี่ยนได้ตามความต้องการ เพียงแค่คงความทำฐานแต่ละชั้นไว้อย่างเดิมและเลือกเปลี่ยนจากกล้วยเป็นผลไม้ชนิดอื่น เท่านี้ก็จะได้ขนมไว้ทานเองที่บ้านแบบเก๋ ๆ แล้ว